ศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นศาลเจ้าชินโตเก่าแก่ ตั้งอยู่เมืองซัปโปโร เกาะฮอกไกโด โดยอยู่ในบริเวณสวนมารุยามะ (Maruyama Park) จุดชมดอกซากุระที่ขึ้นชื่อ และได้รับความนิยมมากอีกสถานที่หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลยาวไป เลือกอ่านตามหัวข้อได้เลย
ประวัติศาลเจ้าฮอกไกโด
ศาลเจ้าฮอกไกโดสร้างขึ้นในปี 1869 ภายหลังจักรพรรดิเมจิประกาศว่า “เทพเจ้าผู้บุกเบิกทั้ง 3 องค์” ได้รับการประดิษฐานเพื่อเชิดชูจิตวิญญาณของผู้บุกเบิก
โยชิทาเกะ ชิมะ (Yoshitake Shima) ผู้ออกแบบเมืองซัปโปโรในสมัยนั้น ได้เลือกสวนมารุยามะ (Maruyama) เป็นที่ตั้งของศาลเจ้า ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 3 ด้าน และอีกด้านหนึ่งเลือกเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฮอกไกโด เพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งชินโต เพื่อจะได้รับพลังแห่งจิตวิญญาณแก่ผู้บุกเบิก
ปัจจุบันได้ประดิษฐานเทพเจ้าจำนวนสี่องค์ เพื่อคุ้มครองชาวฮอกไกโดให้มีความสงบสุข ผู้คนต่างหลั่งไหลมาขอพรในวันสำคัญๆ ต่างๆ อาทิเช่น วันปีใหม่, การจัดงานแต่งงาน ศาลเจ้าฮอกไกโดอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู และยิ่งช่วงซากุระด้วยแล้ว ถือได้ง่าเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับการมาชมดอกซากุระเลยทีเดียว
ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,500 ต้น ซึ่งจะบานในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนต่างๆ พามากันมาเพลิดเพลินกับการชมความสวยงามของดอกซากุระที่กำลังเบ่งบาน ช่วงฤดูร้อนมีจัดเทศกาล Sapporo Festival มีการแห่ศาลเจ้ากันไปรอบเมือง ช่วงฤดูหนาวปลายปี วันส่งท้ายปีเก่าก็เป็นแหล่งยอดนิยมในการมาสวดมนต์ขอพร
คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกซากุระ ประมาณ 1,500 ต้น และต้นบ๊วย (ดอกบ๊วย) ประมาณ 250 ต้นในบริเวณศาลเจ้าฮอกไกโด ดอกซากุระเหล่านี้มีต้นกำเนิดในปี 1875 เมื่อปลูกไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่โยชิทาเกะ ชิมะ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นบิดาผู้บุกเบิกของการพัฒนาฮอกไกโด ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยมของชาวซัปโปโรมาตั้งแต่ปี 1900 ในช่วงโกลเดนวีค (ปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคม) จะมีแผงขายอาหารและบริเวณนี้จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ภาพดอกซากุระและดอกบ๊วยที่บานสะพรั่งพร้อมๆ กันนั้นคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง
ศาลเจ้าฮอกไกโดช่วงฤดูหนาว
การเดินทางไป ศาลเจ้าฮอกไกโด
- จากสถานีซัปโปโร (Sapporo) ไปศาลเจ้าฮอกไกโด ให้ต่อรถไฟ Subway Tozai Line จากสถานี Odori Station ไปลง สถานี Maruyama Koen Station แล้วเดินต่ออีก 15 นาที
- จาก Maruyama Koen Station (Subway Tozai Line) สามารถนั่งรถบัส JR Hokkaido Bus (สาย Nishi 14 หรือ Nishi 15) ลงที่ป้าย “Jingumae teiryujo” แล้วเดินต่ออีก 1 นาที
